แบ่งปันวันศุกร์ประเสริฐ

Holy Week  •  Sermon  •  Submitted   •  Presented
0 ratings
· 137 views
Notes
Transcript
วันศุกร์ประเสริฐ
7 เมษายน 2023
การระลึกถึง 3 วันศักดิ์สิทธิ์ในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
(Paschal Triduum)
สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์เป็นช่วงเวลาที่เราได้เข้ามาระลึกถึงความเชื่อที่สำคัญของคริสตชน และเป็นช่วงเวลาสัปดาห์สุดท้ายของพระเยซูคริสต์ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์อีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้าพระเยซูคริสต์ไม่ได้คืนพระชนม์ ก็จะไม่มีคริสเตียนเกิดขึ้น เราก็จะเป็นผู้ที่กล่าวเท็จและ ความเชื่อของเราก็ไร้ประโยชน์ เมื่อไม่มีการคืนพระชนม์ก็จะไม่มีความหวังใจสำหรับมนุษยชาติ เหมือนอย่างที่อาจารย์เปาโล ได้กล่าวไว้ใน
1 โครินธ์ 15:14-18
“14ถ้าพระคริสต์ไม่ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา การประกาศของเรานั้นก็ไร้ประโยชน์และความเชื่อของท่านทั้งหลายก็ไร้ประโยชน์ด้วย 15และคนก็จะเห็นว่าเราเป็นพยานเท็จในเรื่องพระเจ้า เพราะเราเป็นพยานว่าพระองค์ทรงทำให้พระคริสต์เป็นขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าคนตายไม่ถูกทำให้เป็นขึ้นมาแล้ว พระคริสต์ก็ไม่ได้เป็นขึ้นมา 16เพราะว่าถ้าคนตายไม่ถูกทำให้เป็นขึ้นมา พระคริสต์ก็ไม่ได้ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา 17และถ้าพระคริสต์ไม่ได้ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา ความเชื่อของพวกท่านก็ไร้ประโยชน์ ท่านก็คงอยู่ในบาปของตน 18และถ้าอย่างนั้นคนทั้งหลายที่ล่วงหลับในพระคริสต์ก็พินาศไปด้วย”
มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอยู่ 3 เหตุการณ์ที่สำคัญในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเริ่มต้นจากในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ เช้าของวันศุกร์ประเสริฐ และ วันอาทิตย์คืนพระชนม์
1 วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ เราระลึกถึงค่ำคืนที่พระเยซู ทรงถูกทรยศและถูกอายัดที่สวนเกเสมเน มี 2 เหตุการณ์ที่สำคัญในค่ำคืนนั้นคือ การสถาปนาพิธีศีลมหาสนิทและ การล้างเท้าสาวก
2 วันศุกร์ประเสริฐ เราระลึกถึงวันที่พระเยซูทรงถูกตรึงที่ไม้กางเขน สิ้นพระชนม์และฝังไว้ในอุโมงค์ เป็นวันที่เรานมัสการพระเจ้าด้วยความทุกข์ระทมที่สุดและซาบซึ้งที่สุดต่อพระคุณของพระคริสต์ พระเยซูทรงต้องทนทุกข์ที่ไม้กางเขนเพราะว่าเป็นเพียงหนทางเดียวที่เราจะได้รับความรอดพ้นจากความบาปและความตาย ผ่านทางการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ที่ไม้กางเขน จึงทำให้เราได้รับการไถ่จากความบาปของเรา ผ่านการภาวนาระลึกถึงการทนทุกข์ของพระคริสต์ในช่วงวันศุกร์ประเสริฐและวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
3 วันอาทิตย์คืนพระชนม์ เป็นวันอาทิตย์ที่เราร่วมเฉลิมฉลองการคืนพระชนม์ของพระเยซู พระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายตามที่พระองค์ทรงเคยตรัสไว้ การคืนพระชนม์ของพระคริสต์นำมาซึ่งความเชื่อ ความหวังใจ และความชื่นชมยินดีให้กับทุกคนที่เชื่อและรอคอยความรอดพ้นจากการเป็นทาสของความบาป ในพระธรรม 1 โครินธ์ 15:20-22 “20แต่บัดนี้ พระคริสต์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็นผลแรกของพวกที่ล่วงหลับไป 21เพราะว่าในเมื่อความตายเกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่ง การเป็นขึ้นจากความตายก็เกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน 22เพราะว่าเช่นเดียวกับที่ทุกคนต้องตายโดยเกี่ยวเนื่องกับอาดัม ทุกคนก็จะได้รับชีวิตโดยเกี่ยวเนื่องกับพระคริสต์
Meditation 1
ยอห์น 18: 1-27
สวนลุมพินี น่าเสียดายที่มีฝุ่น pm
การคลายเครียด เข้าไปในธรรมชาติ เข้าไปหายใจให้สบายและอธิษฐาน
แม้ว่า ธรรมชาติจะไม่สามารถช่วยเราแก้ปัญหาได้ แต่ ก็ช่วยให้
นี่น่าจะเป็นสาเหตุที่พระเยซูเข้าไปอธิษฐานที่สวนเกเสมเน
ยอห์น 13: 21
พระเยซูทรงทุกข์ใจหนักมาก
มีอยู่สองครั้งคือ ตอนที่ลาซารัสตาย และ เห็นมารีย์ร้องไห้หนักมาก
อีกครั้งคือ ในอาหารมื้อสุดท้ายปัสกา เมื่อมีสาวกคนหนึ่งจะทรยศพระองค์
พระองค์ทรงทราบแล้วว่าเวลาของพระองค์มาถึงแล้ว ซาตานได้มาแล้ว
พระองค์ทรงดำเนินไปที่สวนในเวลาค่ำคืน
ข้อ 1
ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากห้องชั้นบน ไปที่สวนเกเสมเน
ที่นั้น พระองค์ทรงอธิษฐานด้วยความทุกข์ใจหนักมาก จนเหนื่อยออกมาเป็นหยดเลือด
ข้อ 2-3 ยูดาสก็รู้สถานที่ที่นี่ เพราะพระเยซูมาที่มีบ่อยๆ กับสาวกของพระองค์ เขามากับอาวุธ ทหาร อาจจะมากกว่า 600 คน หรือประมาณ 200 คน
พระเยซูมีเพียงแค่ 12 คือเพื่อมาจับพระเยซู ไม่ใช่มาต่อรอง และเขาพร้อมที่จะใช้กำลัง เพราะมีอาวุธมาด้วย
ทำไมพระเยซูเลือกที่จะไปที่สวน น่าจะไปที่อื่น และพระองค์ก็รู้อยู่แล้ว่ายูดาส
พระเยซูต้องการให้เจอ อยู่แล้ว
ข้อ 4 มาหาใคร?
พระเยซูรอพวกเขามา พระองค์ทรงรออยุ่ด้วยความทุกข์ พระเยซุเป็นผุ้เดียวที่นิ่งสงบ และพร้อมรับ การจับกุม
พระเยซูบอกว่า เราคือผู้นั้น ในภาษากรีกต้องแปลว่า เราเป็น
เป็นชื่อของพระเจ้าที่พระองค์เปิดเผยกับโมเสส อพยพ 3
เราเป็นซึ่งเราเป็น คือ เราเป็นพระเจ้า ที่เป็นปัจจุบัน และ ล้มลง พวกเขาล้มลง เพราะยืนอยู่ต่อหน้าเขาคือพระเจ้า โมเสส ล้มลงต่อหน้าพระเจ้า เราเป็น เหมือนทหารเหล่านี้
แต่ที่ประหลาดใจคือ พระเยซุยอมให้พวกเขาจับ
ทำไม่พระเยซูยอมให้เขามาจับและส่งไปที่ไม้กางเขน
ความต้องการ เชื่อฟังของพระเยซุต่อแผนการพระเจ้า
ทำไมพระเยซูยอมให้ถูกจับที่สวน เพราะ
การรักษาที่พบที่ไม้กางเขน แต่ที่สวน พระเยซูพูดกับไม่ใช่ตามใจแต่ตามน้ำพระทัยพระเจ้า แล้วเราล่ะ ไม่ใช่ความตั่งใจ แต่ให้เป็นไปตามพระทัพระองค์​
เมือ่เรายอมพระเจ้า เราจะเป็นไท
ยอห์นบอกว่าเป็นสวน แต่ไม่ยอมบอกชื่อ เพราะว่าไม่ต้องการให้สวนเอเดน
อาดัมไม่เชื่อฟังพระเจ้า
อาดัมคนที่สองเชื่อฟังพระเจ้า จนถึงที่สุด
ยอห์นกำลังเขียน ปฐมกาล ขึ้นใหม่ ความสว่างมาแล้ว และความมืดไม่สามารถมีชัยชนะเหนือได้
การทรยศ
ไม่ว่าจะมืดเพียงใด ไม่ว่าในสวน จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม พระเจ้ายังคงควบคุมอยุ่
Meditation 2
ยอห์น 18: 28-40
เป็นการไต่สวนโดยปิลาต ซึ่งมีการบันทึกทั้งสี่เล่ม
ในยอห์น เราได้ทราบถึงบทสนทนาของปิลาต ระหว่างผุ้นำศาสนา และ พระเยซู
กล่าวหาพระเยซูทรงทำสิ่งที่เลวร้ายก็เลยมามอบตัวให้ปิลาต
พวกเขาต้องการรักษาความบริสุทธิ์แต่ภายนอก ไม่ต้องการเข้าที่บ้านของปิลาต
แต่ภายในพวกเขากับดำมืดและเป็นมลทิน
พวกเขากำลัง ละเมิดบัญญัติข้อที่ 6 อย่าฆ่าคน
ปิลาต ถามเพราะไม่ต้องการจะช่วยพระเยซู แต่ต้องการทราบความตั้งใจที่แท้จริงของพวกผู้นำศาสนา
และพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการประหารใครภายใต้การปกครองของโรม
ข้อ 32
เป็นการเติมเต็ม คำพยากรณ์ของพระเยซูว่าพระองค์จะต้องสิ้นพระชนม์อย่างไร
เข้ามาที่ภายในที่ทำงานของปิลาต ความเย่อหยิ่งที่ต้องการข่มขู่พระเยซู เจ้าเป็นกษัตริย์ของยิว ถ้าพระองค์ตอบว่าใช่ ก็ถึงว่าเป็นกบฎกับโรม ซีซาร์ แต่ถ้าปฎิเสธก็เป็นการโกหก
พระเยซูทรงตอบอย่างชาญฉลาด ว่า ตามที่ท่านและคนอื่นๆได้กล่าว
ปิลาตถามว่าวท่านไปทำอะไร มาทำไมถึงถูกคนยิวจับมา
เมสสิยาห์ เป็น ผู้นำทางการทหาร
ปิลาตกลับไปบอกว่า พระเยซูไม่มีความผิดอย่างไรให้ถึงตาย
เป็นธรรมเนียม ที่จะปล่อยพระเยซู หรือบารับบัส
เค้าไม่ต้องมือเปื้อนเลือด คนบริสุทธิ์
วันศุกร์ประเสริฐ ไม่ได้มีประเสริฐแต่เป็นเรื่องประเสริฐ เพราะพระเยซูทรงยอมที่จะสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน
Meditation 3
ยอห์น 19: 1-42
การชำระให้ชอบธรรม ไม่ได้อยู่ที่ความดีที่เราทำ
พระคุณพระเจ้า ต้องจ่ายราคาแพง
Related Media
See more
Related Sermons
See more